Search

ตื่นมาดูมาราธอนโอลิมปิก 2020 คุ้มค่ามาก

  • Share this:

ตื่นมาดูมาราธอนโอลิมปิก 2020 คุ้มค่ามาก

1
เอลียูด คิปโชเก้คือผลลัพธ์ของวินัยและการฝึกฝนอย่างแท้จริง ก้าวสม่ำเสมอมั่นคง ความฟิตที่สามารถเลือกกดปุ่มวางแผนตลอดระยะทางยาวไกลได้ว่าตอนไหนเร่งตอนไหนผ่อน เข้าเส้นชัยแบบชิลล์ๆ ยิ้มแย้ม ไม่บูดเบี้ยว ไม่ลงไปกองที่พื้นแม้จะวิ่งเพซ 3 มาตลอดทาง ไม่มีมนุษย์หน้าไหนเกิดมาแล้วเป็นแบบนี้ จะทำได้ต้องมุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างหนักและถูกวิธี ภาพในสนามอันงดงามคือผลลัพธ์จากภาพฝึกซ้อมที่เราไม่มีโอกาสได้เห็น--ทุกความสำเร็จประกอบขึ้นจากเส้นทางที่คนอื่นไม่เห็นเสมอ

.

2
แม้เขาไม่ตั้งใจเป็นแรงบันดาลใจให้ใคร แต่ทุกครั้งที่ดูก็จะรู้สึกอยากวิ่งอย่างมั่นคงบนเส้นทางยาวไกลแบบเขาบ้าง ไม่ต้องเร็วนักแต่มั่นคง สม่ำเสมอ ก้าวแรกและก้าวสุดท้ายแทบไม่ต่างกัน นี่เป็นเรื่องยากของกีฬาที่ต้องการทั้งความยาวนานและความเร็ว คนแบบคิปโชเก้คือคนที่เราเห็นแล้วอยากลุกขึ้นไปซ้อม อยากลงสนาม อยากวิ่งอย่างมีความสุขจนถึงเส้นชัยแบบเขา--ซึ่งเวลาของเราอาจช้ากว่าเขา 2 ชั่วโมง 555 (คือเขาจบได้อีกหนึ่งมาราธอน)

.

3
ผู้พากย์บอกว่านักกีฬาอีกสิบกว่าคนที่เข้าเส้นชัยตามหลังคิปโชเก้ทำเวลา season's best กันได้เกือบหมดทุกคน นี่คือการลากกันไปสู่ศักยภาพที่ดีที่สุดจริงๆ

.

4
นั่งดูต่อหลังจากที่หนึ่งเข้าเส้นชัยไปเป็นสิบนาที ได้เห็นความดีใจของทุกคนที่เข้าเส้นชัยโดยไม่มีเหรียญคล้องคอก็ยืนยันได้จริงๆ ว่าสำหรับคนจำนวนมาก มาราธอนคือการแข่งขันกับตัวเอง นักวิ่งดีใจเสมอที่ควบมาถึงเส้นชัย เพราะมีแต่เราที่รู้ว่าบนเส้นทางยาวไกลนั้นผ่านอะไรมาบ้าง วางแผนพลาด บาดเจ็บ ทรมาน โดนแซง ท้อ อยากเลิก แม้สนามโอลิมปิกไม่มีเหรียญ แต่เห็นแอคชั่นของนักวิ่งอันดับ 40-50-60 ที่ดีใจและภูมิใจกับตัวเองก็ได้เห็น 'เหรียญล่องหน' ห้อยคอทุกคนอยู่จริงๆ

.

5
นักวิ่งหลายคนลงไปกองกับพื้นตอนถึงเส้นชัย มุมหนึ่งทำให้เห็นความแข็งแกร่งของแชมป์ (ที่เดินเล่นต่อได้สบายๆ) อีกมุมทำให้เห็นถึงความพยายามเต็มที่ของนักวิ่งที่ไม่ได้แม้เหรียญทองแดงแล้ว แต่ก็พยายามทำเวลาดีที่สุดของตัวเอง หรืออาจวิ่งบดมาด้วยความเร็วเต็มที่มาตลอดทาง มันเป็นภาพ 'ถึงเส้นชัย' คนละแบบ แต่ก็งดงามในแบบของแต่ละคน (แน่นอนว่า ผมดูแล้วได้แต่คิดว่าทำยังไงกูถึงจะเป็นแบบคิปโชเก้วะ 555 กูกองกับพื้นตลอด)

.

6
ยังไงมาราธอนก็เป็นกีฬาที่มีเสน่ห์ เพราะเราได้เห็น 'ผู้ชนะ' มากกว่า 1 คน มากกว่า 3 เหรียญ ดูสีหน้าท่าทางของพวกเขาได้เลย ทุกคน 'ชนะ' ในสนามนี้ (คนที่เสียใจสุดน่าจะเป็นเคนย่าที่เข้าที่สี่) การได้มาเข้าเส้นชัยโอลิมปิกสักหน ตีคู่ไปกับสุดยอดนักวิ่งระดับโลกมากองรวมกันทั้งโลก น่าจะเป็นหนึ่งวันที่ดีในชีวิตนักวิ่ง

.

7
บางคนขึ้นนำในช่วงแรก บางคนขึ้นนำในช่วงกลาง แล้วร่วงหล่นลงไป แต่ก็ยังเข้าเส้นชัยได้ในที่สุด ยังไงมาราธอนก็คือการวางแผนด้วยเสมอ แค่ความเร็วในตอนต้นไม่พอ จังหวะฉีกของน้าเก้เกิดขึ้นในเวลาที่กลุ่มนำกำลังแรงตก แต่น้าแกเพิ่งเริ่มเกม จากนั้นก็ทะลุมิติหลุดไปวิ่งคนเดียวในอีกโลกหนึ่งไปเลย จะทำแบบนี้ได้ต้องซ้อมมาดี ฟิตจัด เข้าใจตัวเอง และเลือกกดปุ่มในจังหวะที่ใช่

.

8
จังหวะชิงเหรียญเงินก็สนุกมาก เคนย่านำมาตลอดทาง เจอดัตช์ตีคู่แล้วกวักมือเรียกเบลเยี่ยมขึ้นมาอีกคน ปรากฏเคนย่าหมด สปีดไม่ขึ้น โดยแซงสอง เหรียญทั้งเงินและทองแดงหลุดมือในนาทีสุดท้าย นี่คือความมันของมาราธอน แผน ความฟิต จังหวะ วัดกันถึงนาทีสุดท้าย

.

9
เราก็วิ่งเพซ 6 เพซ 7 ของเราต่อไป (ฮ่าฮ่า) เรามี 42.195 กม. ของตัวเอง ไม่ต้องเร็วกว่าคนอื่น แต่เร็วขึ้นก็สนุกดี แม้จะวิ่งสองชั่วโมงแบบน้าเก้ไม่ได้ แต่อย่างน้อยขอให้อาการตัวเองตอนโลที่ 30 กว่ายังหน้าตานิ่ง ตัวไม่เบี้ยว ไม่อายช่างภาพ หน้าตาไม่เหมือนหลงห้างแล้วกำลังจะร้องไห้หาแม่ ก็น่าจะพอแล้ว เพราะทุกครั้งที่เข้าเส้นชัย เราก็ดีใจสุดๆ อยู่ดี มีแต่เราที่รู้ว่าผ่านอะไรมาบ้างระหว่างทาง

.

10
คิดถึงสนามมาราธอนจัง


Tags:

About author
not provided
นิ้วกลม / ติดต่อซื้อหนังสือที่คุณแบม 098-392-8551 / ติดต่องานที่คุณหนึ่ง 087-712-5874 ขอบคุณครับ :)
View all posts